ตอนที่ 1 เดินทางและดานัง
ก่อนอื่นขอทักทายเป็นภาษาเวียดนามว่า “ชินจ่าว” แปลว่า “สวัสดี” ค่ะ ใครมีแพลนจะไปเวียดนามให้จำคำทักทายคำนี้ให้ขึ้นใจนะ สำหรับทริปนี้พวกเราเดินทางช่วงกลางเดือนตุลาคม 2565 ท่ามกลางพายุที่เข้ามาเป็นระยะๆ แต่ถือว่าโชคดีมากๆ ที่เจอพายุที่ไม่รุนแรง มีเพียงฝนฟ้าที่โปรยปรายให้ชุ่มฉ่ำบ้าง เราไปเที่ยวแบบครอบครัวพ่อแม่ลูก (เด็กเล็ก 4 ขวบกว่าๆ) ใครที่มีแพลนจะไปเที่ยว สามารถดูเป็นแนวทาง น่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย
วันที่ 1
เราเริ่มต้นตอนเช้าที่สนามบินดอนเมือง พวกเราถึงสนามบินก่อนไฟต์ออกประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งเราได้เช็คอินออนไลน์มาแล้ว แต่เผื่อเหลือเผื่อขาดตอนนำกระเป๋ามาแสกนลงใต้ท้องเครื่อง กับตอนเข้าด่าน ต.ม. ส่วนกำหนดเครื่องเหิรฟ้าคือช่วงสาย ของวันที่ 15 ตุลาคม 2565 โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย ใช้เวลาเดินทางถึงสนามบินนานาชาติดานังประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ออกเดินทางกันเลย…Let Go!!!
และในที่สุดพวกเราก็มาถึงเวียดนามแล้ว หลังจากที่ผ่าน ต.ม. และรับกระเป๋าแล้ว พวกเราก็พร้อม ตะลุยดานัง กันแล้ว อ่อ! เดี่ยวก่อน!!! ขอแวะซื้อซิมมือถือสำหรับใช้ที่เวียดนามก่อน มีเคาน์เตอร์ขายอยู่ใกล้กับที่รับกระเป๋าเรียงรายใกล้ทางออกไปโถงอาคารผู้โดยสาร ไม่ต้องกล้วหาไม่เจอ เพราะจะมีพนักงานขายตะโกนเรียกลูกค้า หลากหลายภาษา รวมทั้งภาษาไทย สามารถจ่ายด้วยเงินไทยได้ด้วยนะคะ เลือกซื้อตามความสะดวกได้เลยค่ะ ส่วนพวกเราซื้อ Package 390 บาท 30 วัน ^^
เมื่อออกมาด้านนอกตัวอาคารแล้ว เราจะใช้วิธีเดินทางด้วย Grab สำหรับเงินที่เราแลกจากไทยเป็นเงินดอลล่ายูเอส ณ ตอนนั้น เรทราคาจะดีกว่าแลกเงินดองโดยตรง เราจึงต้องหาที่แลกเงินดองกันก่อน ซึ่งสถานที่แลกเงินจะอยู่ทางฝั่งซ้ายของประตูที่เราเดินออกมาจากตัวอาคารค่ะ (เดินออกมาจากประตูแล้วเลี้ยวซ้าย) เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอร้านแลกเงินหลายร้านเลยค่ะ เราแลกพอเป็นค่ารถกับค่ากินไปก่อน ที่เหลือจะไปแลกที่ร้านทองแถวตลาดฮานจะได้เยอะกว่าค่ะ
แลกเงินเสร็จก็กดเรียก Grab เลยค่ะ โอ้! กดปุ๊บได้ปั๊บเลยค่ะ เร็วมากๆ ไปขึ้นรถกันเถอะ การเดินทางด้วย Grab เป็นทางเลือกที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับ Taxi เพราะราคาจะถูกกว่ามาก และราคาชัดเจน มีบันทึกข้อมูลการเดินทางไว้ใช้ร้องเรียนกรณีเกิดปัญหา แอบกระซิบไว้ก่อนว่าในทริปนี้เราได้ใช้บริการร้องเรียนไปแล้ว และได้ผลที่น่าพึงพอใจ
สำหรับรถที่เข้ามาในสนามบิน จะมีค่าธรรมเนียมสนามบินสำหรับรถไม่เกิน 5 ที่นั่ง ที่เข้าไปไม่เกิน 30 นาที อยู่ที่ 9,000 VND ค่ะ ค่าธรรมเนียมนี้พี่ Grab อาจจะออกให้ไปก่อน แล้วไปคิดรวมตอนถึงที่หมายแล้ว หรือเราจะยื่นให้ตอนถึงด่านก็ได้ขึ้นกับตกลงกัน
ส่วนค่าเดินทางจากสนามบิน เราเรียก Grab 53,000 VND + ค่าธรรมเนียมสนามบิน 9,000 VND รวมแล้ว 62,000 VND ค่ะ
ใช้เวลาเดินทางไม่นานเราก็ถึงที่พัก เนื่องสนามบินอยู่ไม่ไกลจากที่พัก เราพักกันที่ Pariat Hotel & Apartment ฝั่งหางสะพานมังกรค่ะ เราจองอโกด้าราคา 838 บาท รวมอาหารเช้า (อาหารอร่อยถูกปาก ตามความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ) และเด็กเล็กพักฟรีค่ะ
เรามาถึงตอนเที่ยงพอดี สามารถเช็คอินเอากระเป๋าไปเก็บก่อนได้เลย พอเข้าห้องพัก ก็ลองใช้ไวไฟของโรงแรม ถือว่าเน็ตแรงดี อัพรูปขึ้นคลาวด์เร็วใช้ได้เลย ^^
นั่งสักพัก เริ่มรู้สึกหิวแล้ว เลยพากันลงมาเดินหาร้านกินเลียบแม่น้ำฮานกัน เดินเลือกร้านกันอยู่นานจนมาจบที่ร้านนี้ค่ะ Ăn Thôi Restaurant อาหารอร่อยถูกปากมากๆ ค่าอาหารทั้งหมด 389,000 VND
สำหรับช่วงบ่าย เราเดินเล่นแถวๆที่พัก ดื่มด่ำบรรยากาศรอบๆ แต่ที่เวียดนามทางเท้าหลายๆจุด เขาจะนำรถมาจอดทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ส่วนใหญ่จะเป็นมอเตอร์ไซค์ จอดแบบเต็มพื้นที่ จนต้องลงมาเดินบนพื้นถนนทางเดินรถ ใครไปต้องระวังเรื่องความปลอดภัยกันด้วยนะ ถ้ามีรถเข็นเด็กก็จะติดขัดตรงนี้พอสมควร
สำหรับอาหารค่ำ เราเดินถัดจากโรงแรมที่พักมาจะมีทางแยกเข้าถนน Trần Quốc Toản อยู่ใกล้โรงแรม HAIAN Riverfront ซึ่งมีร้านนึงชื่อสะดุดตามาก ชื่อว่า Thai Market ร้านอาหารไทย เราจึงตัดสินใจเลือกร้านนี้เพื่อจะลองรสชาติอาหารไทยในดานัง รถชาติถือว่าใช้ได้ ถึงแม้จะไม่ได้เหมือนบ้านเราแบบ 100% แต่ก็ถือว่าไม่ต่างกันมาก อยากรู้ต้องลองไปชิมกัน
ขอจบริวิว วันแรกที่ดานังเท่านี้ก่อน ส่วน EP. หน้าเราจะไปตะลุยกันต่อที่ฮอยอัน เมืองเก่าที่สวยน่ารัก น่าถ่ายรูปมากๆค่ะ
อ่อ! สำหรับใครต้องการซื้อของใช้ส่วนตัว รวมถึงนมเด็ก และพักฝั่งหางมังกร จะมีร้านมินิมาร์ทใกล้ๆ ค่ะ แต่ปิด ประมาณ 4 ทุ่มนะคะ ต้องไปเลือกซื้อไว้ก่อนเลย ไม่อย่างนั้น ต้องเดินไกล ข้ามสะพานไปฝั่งหัวมังกร ซึ่งจะมีร้านมินิมาร์ทเปิดตลอด 24 ชม.เลย ใครพักฝั่งนั้นก็จะสบายหน่อยนะคะ ^^
